วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2554

http://variety.teenee.com/foodforbrain/img3/24374.jpg


แปลกมั๊ย..ใคร ๆ ก็คิดว่าเวลากับนาฬิกาเป็นสิ่งที่คู่กันเสมอจริง ๆ แล้ว มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นซักหน่อย


เวลา... เดินไปข้างหน้า
นาฬิกา.. เดินอยู่ที่เก่า

เวลา.. เราไม่อาจย้อนกลับ
นาฬิกา.. เราหมุนย้อนมันได้

เวลา.. เมื่อสูญเสียไปแล้วไม่อาจเรียกร้องคืน
นาฬิกา.. เสียก็ซ่อม หรือซื้อใหม่ไปเลย

เวลา.. ได้มาฟรีๆ ไม่ต้องแลกกะอะไร
นาฬิกา.. ยิ่งสวยยิ่งแพง ใช้เงินซื้อมันมาทั้งนั้น
แล้วอย่างนี้ มันจะคู่กันได้ยังไง ในเมื่อมันแตกต่างกันเหลือเกิน

แต่ถามหน่อย.. ถ้าไม่มีนาฬิกา จะรู้เวลามั๊ย
หรือถ้ามีแต่นาฬิกา แต่ไม่รู้จักเวลา จะมีประโยชน์อะไร

ถึง 2 สิ่งจะแตกต่างกัน แต่ถ้ามันจะคู่กันแล้ว
ย่อมมีจุดร่วมกันเสมอ เพียงแต่จะมองเห็นมันรึป่าว?

ฉันกับเค้า.. อาจไม่มีอะไรเหมือนกัน

ฉันกับเค้า.. มีความคิด และวิถีชีวิตที่ต่างกัน

ฉันกับเค้า.. อาจเดินกันคนละเส้นทาง

ฉันกับเค้า.. อาจมีความฝันที่ห่างไกลกัน

ฉัน.. อาจเหมือนกับเวลา ที่ชอบเดินไปข้างหน้า  หาสิ่งใหม่ๆที่ท้าทาย โดยทิ้งหลายสิ่งไว้ข้างหลัง

เค้า.. อาจเหมือนกับนาฬิกา ที่ยังเป็นแบบเดิมๆ  ใช้ชีวิตและทำหน้าที่ไปเรื่อยๆ ในมุมเก่าๆ

ฉันอาจไม่พบกับเค้าเลย ถ้าฉันยังดึงดันจะมองแต่ข้างหน้า

ฉันอาจไม่พบกับเค้าเลย ถ้าฉันไม่มองไปข้างหลัง

เค้ายังไม่เห็นฉัน เพราะเขายังอยู่แบบเดิมๆ

เค้ายังไม่เห็นฉัน เพราะเขายังก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของเขาไป

แต่ฉันยังเฝ้ามอง เฝ้ารอ …  ความแตกต่าง อาจสร้างกำแพงบังเค้าไว้

แต่ฉันยังเชื่อมั่น ว่าซักวัน สิ่งนั้นน่ะแหละ   ที่จะเชื่อมโยงใจเราเข้าหากัน
ความแตกต่าง จะเติมเต็มส่วนที่เราขาดหาย
และสุดท้ายก็จะเหลือเพียงแค่คำว่า..**กันและกัน **

น่ารักน่ะ

          - จงรักด้วยสมอง แต่อย่ารักจนขึ้นสมอง

            - ที่ใดมีรัก (อย่างขาดสติ)  ที่นั่นมีทุกข์

            - ที่ใดมีรัก (อย่างมีสติ) ที่นั่นมีสุข

            -ความรัก ควรถูกนำมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างอนาคตที่ดีร่วมกัน ไม่ใช่เป็นตัวทำลายอนาคต

            - รักแท้ที่ยั่งยืน ควรวางรากฐานอยู่บนทฤษฎี ๔ ส. กล่าวคือ

                        ๑. สมศรัทธา     มีศรัทธาเสมอกัน (เชื่อมั่นศรัทธาในสิ่งเดียวกัน)

                        ๒. สมศีลา         มีศีลเสมอกัน (ไม่นอกใจซึ่งกันและกัน)

                        ๓. สมจาคา       มีความเสียสละเสมอกัน (ลืมความเป็นเธอ ลืมความเป็นฉัน หลอมกันเป็นเรา)

                        ๔. สมปัญญา     มีปัญญาเสมอกัน (มีระดับสติปัญญาเสมอหรือใกล้เคียงกัน)

            - อย่ารักจนหน้ามืดตามัว จนมองไม่เห็นหัวกฏเกณฑ์ทางจริยธรรมของสังคม

            - อย่ารักจนหน้ามืดตามัว กระทั่งมองไม่เห็นหัวของมารดรบิดาบังเกิดเกล้า

            - ทุกครั้งที่มีความรัก ควรเผื่อใจไว้สำหรับการอกหักที่อาจจะเกิดขึ้นได้เสมอ

            - ที่ใดมีรัก  ที่นั่น (อาจมีทุกข์) ที่ใดมีกิ๊ก  ที่นั่นมีกรรม, ที่ใดมีชู้ ที่นั่นมีช้ำ

            - ทุกคนที่มีความรัก ควรภาวนาคาถากันน้ำตาไหลที่ว่า “ไม่แน่  ไม่ได้ดั่งใจ ไม่มีอะไรสมบูรณ์” เอาไว้เสมอ

            - เลือกคนรักอย่ามองแค่หน้าตา แต่จงพิจารณาไปถึงนิสัย  สติปัญญา  และคุณธรรม

            - ผู้ชายจงมองให้เห็นความเป็นแม่ที่มีอยู่ในผู้หญิง ส่วนผู้หญิงจงมองให้เห็นความเป็นพ่อที่มีอยู่ในผู้ชาย

            - ความรักไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต อย่าอุทิศทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อความรักจนเสียผู้เสียคน

            - จงเรียนรู้ที่จะพัฒนาความรักจากระดับสามัญไปสู่รักที่สร้างสรรค์เพื่อ เกื้อกูลโลก เพราะมนุษย์ทุกคนมีความสามารถที่จะรักได้มากกว่าการรักตัวเอง รักแท้ที่ควรสร้างสรรค์มี ๔ ระดับ คือ

                        ๑. รักตัวกลัวตาย            (รักพื้นฐานระดับสัญชาตญาณ)

                        ๒. รักใคร่ปรารถนา          (รักอิงกามารมณ์)

                        ๓. รักเมตตาอารี             (รักอิงสายเลือดและสายสัมพันธ์)

                        ๔. รักมีแต่ให้                  (รักที่ลอยพ้นอัตตา ต้องการพัฒนาทั้งโลกให้มีความสุข)

ไม่สัญญา

ไม่สัญญา ... ว่าจะไม่ทำเธอเสียใจเพราะเธออาจต้องร้องไห้ หรือผิดหวังกับฉัน

ไม่สัญญา...ว่าจะดีทีสุดในทุกๆวัน
เพราะบางครั้ง ฉันก็ห่างจากคำว่า " คนดี "

จึงจะบอกเธอไว้เลย " ฉันไม่ใช่นางเอก "
ไม่ใช่ผู้หญิงในสเปกของผู้ชายทั้งโลกนี้

แต่รักจริงใจที่เธอให้มา จะรักษาไว้ให้ดี
และพื้นที่ในใจของผู้หญิงคนนี้ จะมีเพียงเธอ

วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ทดสอบ

คนเลือดกรุปบี เป็นคนไม่ใส่ใจ ไม่สนใจโลก แต่ถ้ารักใคร ก็จะให้ความสำคัญเทียบเท่ากับตัวเอง และก็เพราะว่ารักอิสระมากเกินไป ในบางครั้งการที่คนเลือดกรุปบีบอกรัก ก็อาจจะบอกเลิกได้ในระยะเวลาห่างกันไม่ถึงชั่วโมง ^^